ลิเวอร์พูล

ลิเวอร์พูลขึ้นจ่าฝูง แมนฯ ยูไนเต็ด พลิกนรก..

ผมนั่งดูเกมบ๊อกซิ่งเดย์แบบยาวๆ ตั้งแต่หัวค่ำ บอกได้เลยครับว่าเต็มอิ่มแบบสุดเหยียด เพราะกระทั่งเกมระหว่างทีมเล็กๆ อย่าง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด กับ ลูตัน ทาวน์ ก็ยังเดือดปุดๆ ซัดกันถึง 5 ประตู ที่ประทับใจมากๆ คือ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ครับ ลูกทีมของ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ เล่นดีจริงๆ จังหวะโต้แต่ละดอกรวดเร็วสะใจกล้าเลี้ยงกล้าลาก น่าจะยิง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ได้มากกว่านี้ด้วย

คริส วู้ด ทำแฮตทริกเหมาทั้ง 3 ประตูให้ทีมเจ้าป่าบุกอัดสาลิกาดง 3-1 แค่คู่หัวค่ำก็เร้าใจกับเกมที่สนุกเหลือเกินจาก เซนต์ เจมส์ พาร์ค แล้ว แต่แน่นอนครับ เกมที่เป็นไฮไลต์สำหรับผมและหลายๆ คนคงหนีไม่พ้น 2 เกมในคู่ดึก เที่ยงคืนครึ่ง ลิเวอร์พูลไปเยือนเบิร์นลี่ย์ และตีสาม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รับมือ แอสตัน วิลล่า เกือบห้าชั่วโมงของการนอนดูทั้ง 2 เกม ไม่มีความรู้สึกเสียดายเวลาเลย เกมที่ เทิร์ฟ มัวร์ ลุ้นปัสสาวะเหนียวในครึ่งหลังที่เจ้าถิ่นเบิร์นลี่ย์ไม่มีอะไรจะเสียเปิดเกมลุยแลกอย่างเต็มที่ 

แต่ความเขี้ยวและการเติบโตในเรื่องการรักษาสถานการณ์ทำให้ลิเวอร์พูลเอาอยู่ เก็บสามคะแนนที่ต้องการได้สำเร็จ มันเป็นเกมลักษณะที่เราเห็นกันบ่อยๆ ระหว่างทีมใหญ่กับทีมเล็ก จะมีอยู่ช่วงเวลาหนึ่งที่เหมือนทีมเล็กจะได้ลุ้นจากการฮึดขึ้นมา แต่สุดท้ายก็จะถูกหมัดน็อกของทีมใหญ่เข้ากระโดงคาง

ลิเวอร์พูล

ประตูฝัง 2-0 ของ ดีโอโก้ โชต้า ก็ประมาณนั้น ลิเวอร์พูลเปลี่ยนดาวเตะโปรตุกีสลงมาในครึ่งหลังแล้วเขาก็ใช้เวลาแค่ 6 นาทียิงปลดเปลื้องความตึงเครียดทั้งปวงให้กับทีม ลิเวอร์พูลทะยานขึ้นสู่ตำแหน่งจ่าฝูงแซงหน้าอาร์เซน่อลที่จะเตะในวันพฤหัสฯ นี้ จะอยู่ตรงนั้นสั้นนิดหรือยาวหน่อยคงไม่ได้สำคัญอะไรมากเพราะเส้นทางยังเหลืออีกตั้งครึ่ง แต่สิ่งดีๆ ที่ได้เห็นจากความกระฉับกระเฉงทั้งหลายรวมทั้งประตูจาก ดาร์วิน นูนเญซ น่าจะทำให้เดอะค็อปชื่นใจ

หากเกมที่ เทิร์ฟ มัวร์ ว่ามันแล้ว ร้อยกว่านาทีที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ยิ่งข้นคลั่กกว่า ด้วยอารมณ์แห่งความดราม่าระเบิดออกมาตูมใหญ่ ผมคิดว่าเราไม่ได้เห็นบรรยากาศแบบนี้ในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด มานานแล้วนะครับ ทั้งเลือดนักสู้ในสนาม ทั้งการตะเบ็งเสียงเชียร์ดังสนั่นบนอัฒจันทร์ ทั้งสถานการณ์ที่น่าท้อตกเป็นรองถึง 2 ประตูแต่ไล่ยิงแซงกลับมาได้ด้วยสปิริตที่น่ายกย่อง แน่นอนมันเป็นชัยชนะที่หืดจับ ต้องเหน็ดเหนื่อยเลือดตาแทบกระเด็น แต่ผลที่ได้ของมันล้ำค่า ด้วยแฟนปีศาจแดงทุกคนรู้สึกภาคภูมิใจเปี่ยมล้น

ความรู้สึกภูมิใจในทีมอย่างนี้คือความสุขที่สุดแล้ว เอาจริงๆ ได้เห็นนักเตะวิ่งกันลืมตายอย่างนี้โดยเฉพาะในครึ่งหลังที่กลับมาลงสนามด้วยโจทย์ต้องยิง 2 ประตูเพื่อเสมอ ต้องยิงมากกว่านั้นเพื่อชนะ แล้วเห็นปฏิกิริยาตอบสนองของนักเตะแต่ละคนเล่นอย่างถวายหัว.. ต่อให้กลับมาไม่ได้หรือไล่ไม่ทันก็คงโกรธไม่ลง ไล่ตี 2-2 ก็เยี่ยมแล้ว แซง 3-2 นี่บ้าคลั่งไปเลย บ๊อกซิ่งเดย์ปีนี้สนุกจริงๆ ครับ 5 คู่ที่ลงเตะกันไปช่วยกันผลิตประตูได้ถึง 19 ลูก.. เฉลี่ยคู่ละ 3.8 ประตู และมันปิดวันอย่างสมบูรณ์แบบด้วยเกมดราม่าที่โรงละครแห่งความฝัน

เหลืออีก 5 คู่รอเราอยู่ คืนนี้ 3 คู่ คืนพรุ่งนี้อีก 2 คู่

  • แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เตะคืนนี้ ไปเยือนเอฟเวอร์ตัน
  • อาร์เซน่อลเตะคืนพรุ่งนี้ รับมือ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
  • สเปอร์สก็เตะคืนพรุ่งนี้ ไปเยือน ไบรท์ตัน

เชลซีก็น่าจะได้ส่ง คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ลงตัวจริงเป็นครั้งแรกเสียทีในเกมดวล คริสตัล พาเลซ คืนนี้หลังดาวเตะฝรั่งเศสทยอยสัมผัสเกมในฐานะตัวสำรองมาแล้ว 2 นัดหรือกระทั่งคู่ที่ดูเหมือนแรงดึงดูดน้อยกว่าเพื่อนอย่าง เบรนท์ฟอร์ด เจอ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ก็อาจมีดราม่าข้นๆ หรือมหกรรมถล่มประตูให้เห็นก็ได้ บ๊อกซิ่งเดย์ปีนี้ทักทายเราได้น่ารักจริงๆ ครับ ขอเข้มๆ แบบนี้ต่อเลยนะทั้งคืนนี้และคืนพรุ่งนี้